บทความ

5 สัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่

 

ถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนใหม่แล้วหรือยัง? คำถามที่อาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนสำหรับใครหลายๆคน เพราะเรามักจะเคยชินกับของเดิมที่ใช้อยู่จนลืมไปว่ามันก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน ดังนั้นการเปลี่ยนที่นอนใหม่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ แต่เป็นการลงทุนในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณและคู่นอนในระยะยาว เพื่อให้คุณมั่นใจว่าได้ใช้ที่นอนที่ดีและมีคุณภาพ มาดู 5 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเวลานั้นใกล้ถึงแล้วที่คุณควรเปลี่ยน ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและทำให้การนอนหลับของคุณกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

 

  1. อายุการใช้งานของที่นอน

การพิจารณาอายุการใช้งานเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการตัดสินใจว่าจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนหรือยัง ที่นอนเป็นสิ่งที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ดังนั้นมันมักจะเสื่อมสภาพตามเวลาและการใช้งาน แม้ว่าอายุการใช้งานที่แนะนำของมันจะขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของมัน แต่โดยทั่วไปแล้วที่นอนควรมีการเปลี่ยนใหม่ทุก 7-10 ปี ปัจจุบันหลายแบรนด์ หลายรุ่นมีการรับประกันที่ยาวนานถึง 15-25 ปี ซึ่งหมายความว่าแบรนด์ที่ผลิตที่นอนเหล่านี้มีความมั่นใจในคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม การรับประกันไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถใช้มันนั้นได้ตลอดเวลา จึงควรหมั่นตรวจสอบดูสภาพมันด้วยเช่นกัน

 

  1. ที่นอนต้องสบายและรองรับสรีระที่ดี

รู้สึกไม่สบายในการนอนหลับหรือไม่? ปวดหลัง ปวดเอว หรือมีอาการนอนไม่หลับหลังจากตื่นนอน? อาการเหล่านี้อาจเกิดจากที่นอนที่เสื่อมสภาพ วัสดุที่ใช้งานอาจเริ่มยุบตัวหรือเสียรูป ส่งผลให้การรองรับร่างกายไม่ดีเหมือนเดิม สัมผัสที่เคยสบายอาจเปลี่ยนไป ดังนั้น หากการนอนไม่สบายเหมือนเมื่อก่อน นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่

 

  1. ความเสียหายของที่นอน

การตรวจสอบที่นอนอย่างละเอียดสามารถบอกได้ว่าเวลานั้นใกล้เข้ามาหรือยัง สังเกตง่ายๆดังนี้

  • สปริงทิ่มทะลุ: หากมีสปริงที่เริ่มทิ่มทะลุออกมา อาจเป็นสัญญาณว่าโครงสร้างภายในเริ่มเสียหาย ซึ่งอาจจะทำให้คุณเกิดบาดแผลขณะขึ้น-ลงจากเตียงได้
  • ผ้าหุ้มที่นอน: หากผ้าหุ้มมีการฉีกขาดหรือรอยปริ อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้การสะสมของฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้สัมผัสโดนร่างกายหรือผิวหนังของเราได้มากขึ้น
  • เปลี่ยนสีหรือมีกลิ่น: ที่นอนที่เริ่มเปลี่ยนสีหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจบ่งบอกถึงการสะสมของสารปนเปื้อนหรือความเสื่อมสภาพของวัสดุ

หากที่นอนยังอยู่ในระยะประกัน ควรเช็คกับแบรนด์เพื่อดูว่ามีการเคลมหรือซ่อมแซมได้ไหม แต่ถ้าเกินระยะประกันแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณต้องหาทางเลือกใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์สรีระและร่างกายให้มากขึ้น

 

  1. ที่นอนมีการสะสมของไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้

ที่นอนเป็นสิ่งที่มีการใช้งานทุกวันและเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งอาจไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเราในระยะยาว หากคุณมีอาการคันยุบยิบเวลานอน อาการจาม หรือปัญหาการหายใจไม่สะดวก ควรพิจารณาการทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่นั่นเอง

ว่าแต่…อะไรเป็นสาเหตุของการสะสม

  • วัสดุที่ใช้ในการผลิตที่นอน เช่น ฟองน้ำ ขนสัตว์  หรือวัสดุที่มีความเป็นใยอาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและไรฝุ่น ซึ่งมีความสามารถในการเก็บฝุ่นและเศษผิวหนังที่หลุดลอกออกมาจากร่างกาย
  • การสัมผัสของร่างกายและความชื้น อาจทำให้ที่นอนมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของไรฝุ่นและเชื้อรา ซึ่งสามารถปล่อยสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นปฏิกิริยาแพ้นั่นเอง

 

  1. การคืนตัวของสปริงและการยุบตัวของที่นอน

สุดท้ายแม้จะไม่มีความเสียหายที่เห็นได้ชัด แต่แน่นอนว่าสปริงหากถูกใช้งานเป็นระยะเวลานานก็อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้ความสามารถในการคืนรูปไม่เหมือนเดิม มีวิธีสังเกตคือ ดูว่าที่นอนของคุณยังสามารถคืนรูปหลังจากใช้งานได้ดีหรือไม่? หากเริ่มยุบตัวหรือแอ่นลงในบางจุด ไม่สามารถให้การสนับสนุนร่างกายได้เหมือนเดิม นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าที่นอนของคุณใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว

 

หากคุณพบว่าสัญญาณเหล่านี้เริ่มปรากฏขึ้นในที่นอนของคุณ ลองพิจารณาเปลี่ยนที่นอนใหม่เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้นและสุขภาพที่ดีในระยะยาว แบรนด์ Welcare เรามีฟูก หมอน และเครื่องนอนหลากหลายแบบให้คุณเลือกชมและซื้อออนไลน์ได้ง่ายๆ อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้กับคนที่คุณรักเพื่อช่วยให้พวกเขานอนหลับได้ดีขึ้น

 

เคล็ดลับเลือกที่นอนใหม่!

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงรู้แล้วว่า การเลือกสิ่งใหม่เข้ามาทดแทนของเก่า มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนเลือกของใหม่ มาดูเคล็ดลับๆ ที่ Welcare อยากแนะนำเพื่อนๆกันดีกว่า

  • ดูชนิดของฟูกว่าเราเหมาะสมหรือต้องการแบบไหน เช่น สปริงได้เรื่องความแน่น ยางพาราจะได้ความนุ่ม แต่ ไฮบริดก็จะมีทั้งความนุ่มแน่น (นี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างข้างต้นเท่านั้น) ซึ่งแต่ละชนิดก็จะให้ความรู้สึก การรองรับสรีระ แตกต่างกันออกไป
  • หลังจากรู้จักชนิดของฟูกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงคือการรองรับสรีระ วิธีสังเกตง่ายมากๆ คือทดลองนอนจริงๆที่เตียงแล้วดูว่าทุกส่วนของร่ายกายได้สัมผัสกับเตียงในแนวราบหรือไม่ หรือมีจุดใดจุดหนึ่งของร่างกายยุบลงไป (กรณีของหลัง ตื่นมาก็จะมีอาการปวดนั่นเอง)
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors